๒๘ ก.ย.๕๒
หลังจากลงเสาเอก เสาโทเรียบร้อย
ก็ทำการเทปูนฐานราก
บ้านเราใช้ฐานราก แบบฐานแผ่ กว้าง ๑.๒ ม. ยาว ๑.๒ ม.หนา ๐.๒๕ ม.
หลุมลึก ๑.๒ ม. ถึงระดับพื้นดิน ไม่ได้ตอกเสาเข็ม เนื่องจากพื้นเป็นทรายล้วนๆ
เหล็กผูกฐานรากเป็น ๔ เหลี่ยม ขนาดตามแบบ แต่ควรเล็กกว่าแบบนิดนึง พอเทปูนก็จะพอดี ของผมช่างทำเท่าขนาดพอเทปูนเสร็จก็จะใหญ่กว่าแบบ เปลืองปูน
ปูนที่ใช้เป็นปูนสำเร็จสั่งแบบเป็นรถวิ่งมาส่ง จะได้เรื่องความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องผสมโดยคน ซึ่งถ้าใช้คนจะมีผลเรื่องส่วนผสม หินกองรวมกันเพราะคนเมื่อย แล้วก็เสียเวลาเพราะต้องขนปูนใส่ รถ กระป๋อง ไปเท
แต่การใช้ปูนสำเร็จก็ทำให้การขุดหลุมต้องทำเป็นช่วง เพราะขุดทีเดียวไม่ได้ หลุมอยู่ใกล้กัน รถปูนวิ่งเข้าไม่ได้ ต้องเทปูนให้เสร็จก่อน แล้วค่อยขุดหลุมอื่นต่อไป
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552
ได้ฤกษ์ลงเสาเอก เสาโท บ้าน
จันทร์ที่ ๒๑ ก.ย.๕๒
วันนี้ ข้างขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันดี สำหรับการปลูกบ้านของเรา
ย้อนหลัง กลับไป ให้พระดู
กำหนดเป็นวันพุธ ที่ ๑๖ ก.ย.๕๒ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐
ใครๆ เขาว่าไม่ดี เพราะเป็นวันพุธ หัวกุดท้ายเน่า แล้วยังเป็น ข้างแรมอีกต่างหาก
สำหรับวันนี้ ปกติเดือน คี่ เขาก็ไม่ค่อยปลูก เหมือนกัน
ต่เอาดวงสามี ภรรยาไปดูแล้วใช้ได้
ช่างเตรียม หลุม และ เสา รวมฐาน
เราก็เตรียม นิมนต์พระ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆได้ที่ร้านขายของพระ เครื่องสังเวยหมู เป็ด ขนม สั่งที่ตลาด ต้นกล้วย อ้อย ขับรถดูตามข้างทาง เจอที่บ้านไหนก็ลงไปขอซื้อเลย
ลำดับพิธีก็เอาตามสะดวก ของเรา พระท่านคอยบอกให้ทำเป็นลำดับ แถมสุดท้ายถวายปัจจัย ก็ยังให้คืน เป็นขวัญถุงด้วย
วันนี้ ข้างขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันดี สำหรับการปลูกบ้านของเรา
ย้อนหลัง กลับไป ให้พระดู
กำหนดเป็นวันพุธ ที่ ๑๖ ก.ย.๕๒ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐
ใครๆ เขาว่าไม่ดี เพราะเป็นวันพุธ หัวกุดท้ายเน่า แล้วยังเป็น ข้างแรมอีกต่างหาก
สำหรับวันนี้ ปกติเดือน คี่ เขาก็ไม่ค่อยปลูก เหมือนกัน
ต่เอาดวงสามี ภรรยาไปดูแล้วใช้ได้
ช่างเตรียม หลุม และ เสา รวมฐาน
เราก็เตรียม นิมนต์พระ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆได้ที่ร้านขายของพระ เครื่องสังเวยหมู เป็ด ขนม สั่งที่ตลาด ต้นกล้วย อ้อย ขับรถดูตามข้างทาง เจอที่บ้านไหนก็ลงไปขอซื้อเลย
ลำดับพิธีก็เอาตามสะดวก ของเรา พระท่านคอยบอกให้ทำเป็นลำดับ แถมสุดท้ายถวายปัจจัย ก็ยังให้คืน เป็นขวัญถุงด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552
ขอประปาชั่วคราว
๑๕ ก.ย. ๕๒
ดำเนินการขอประปาชั่วคราว
เอกสาร ต้องเป็น เจ้าของโฉนด ดังนั้น เราจึงต้องมีการมอบอำนาจจากเจ้าของโฉนด และใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
ขั้นตอน
๑. ยื่นคำร้อง
๒. จนท. ตรวจพื้นที่ แล้ว กลับมาคำนวณค่าใช้จ่าย
๓. ผู้ขอไปจ่ายเงินที่การประปา
๔. ช่างไปติดตั้งมิเตอร์
ปกติต้องใช้เวลา ๒ สัปดาห์จึงจะต่อให้ได้ แต่ของผมน่าจะซัก ๒-๓ วัน มีค่าใช้จ่าย ๘,๔๑๐ บาท เป็นค่าค้ำประกันการใช้น้ำ ๕,๐๐๐ บาทได้คืนเมื่อยกเลิก
ดำเนินการขอประปาชั่วคราว
เอกสาร ต้องเป็น เจ้าของโฉนด ดังนั้น เราจึงต้องมีการมอบอำนาจจากเจ้าของโฉนด และใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
ขั้นตอน
๑. ยื่นคำร้อง
๒. จนท. ตรวจพื้นที่ แล้ว กลับมาคำนวณค่าใช้จ่าย
๓. ผู้ขอไปจ่ายเงินที่การประปา
๔. ช่างไปติดตั้งมิเตอร์
ปกติต้องใช้เวลา ๒ สัปดาห์จึงจะต่อให้ได้ แต่ของผมน่าจะซัก ๒-๓ วัน มีค่าใช้จ่าย ๘,๔๑๐ บาท เป็นค่าค้ำประกันการใช้น้ำ ๕,๐๐๐ บาทได้คืนเมื่อยกเลิก
ขอไฟฟ้าชั่วคราว
๑๘ ก.ย.๕๒
เมื่อวาน(๑๗ ก.ย.)ไปติดต่อขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว ขนาด ๑๕ แอมป์
เอกสารที่ใช้ สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประชาชน
เบื้องต้น จนท. คำนวณค่าใช้จ่ายให้ทราบ เป็นเงิน ๖,๘๐๒.๕๐ บาท
แบ่งเป็น ค่าติดตั้ง ๘๐๒.๕๐ บาท และ ค่าประกันการใช้ไฟฟ้า ๖,๐๐๐ บาท(ได้เงินคืน)
วันนี้ ช่างจะติดให้ตอนบ่าย
ขั้นตอนในการติดตั้ง
๑. ให้เราไปทำการดึงไฟจากเสา ร้อยผ่านท่อ ต่อไฟผ่าน คัตเอาท์(รอมิเตอร์ที่ จนท. จะนำมาติด)ติดแผ่นไม้เข้ากับเสาไฟ พร้อมกับมีกล่องสำหรับกันฝนมิเตอร์ (เสา ๑ ต้นติดได้ ๔ ชุด) ถ้าไม่มีช่าง ก็จ้างช่างของการไฟฟ้าได้ (๒,๕๐๐ บาท ) ตกลงกันเอง เนื่องจากเป็นงานนอก
๒. แจ้งเรื่องขอติดตั้งไฟชั่วคราว จนท. จะคิดค่าใช้จ่าย แล้วให้ ช่างไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่จะทำการติดตั้ง (กำหนดไปตรวจวันรุ่งขึ้น)
๓. เมื่อช่างตรวจสอบพื้นที่เสร็จ จะแจ้งให้เราไปชำระค่าติดตั้ง
๔. จ่ายค่าติดตั้งเรียบร้อยได้ใบเสร็จ ๒ ใบ คือค่าติด กับค่าประกัน
๕. ช่างจะไปติดมิเตอร์ให้
ค่าไฟฟ้าชั่วคราวราคาจะสูงกว่า แบบ ถาวร อยู่พอสมควร ดังนั้น เมื่อได้เลขที่บ้านแล้วให้รีบไปขอเปลี่ยนเป็น แบบถาวร ซึ่งเมื่อ หักเงินประกัน และไม่ย้ายที่ติดมิเตอร์ เราจะได้เงินคืนอีก พันกว่าบาท
เมื่อวาน(๑๗ ก.ย.)ไปติดต่อขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว ขนาด ๑๕ แอมป์
เอกสารที่ใช้ สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประชาชน
เบื้องต้น จนท. คำนวณค่าใช้จ่ายให้ทราบ เป็นเงิน ๖,๘๐๒.๕๐ บาท
แบ่งเป็น ค่าติดตั้ง ๘๐๒.๕๐ บาท และ ค่าประกันการใช้ไฟฟ้า ๖,๐๐๐ บาท(ได้เงินคืน)
วันนี้ ช่างจะติดให้ตอนบ่าย
ขั้นตอนในการติดตั้ง
๑. ให้เราไปทำการดึงไฟจากเสา ร้อยผ่านท่อ ต่อไฟผ่าน คัตเอาท์(รอมิเตอร์ที่ จนท. จะนำมาติด)ติดแผ่นไม้เข้ากับเสาไฟ พร้อมกับมีกล่องสำหรับกันฝนมิเตอร์ (เสา ๑ ต้นติดได้ ๔ ชุด) ถ้าไม่มีช่าง ก็จ้างช่างของการไฟฟ้าได้ (๒,๕๐๐ บาท ) ตกลงกันเอง เนื่องจากเป็นงานนอก
๒. แจ้งเรื่องขอติดตั้งไฟชั่วคราว จนท. จะคิดค่าใช้จ่าย แล้วให้ ช่างไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่จะทำการติดตั้ง (กำหนดไปตรวจวันรุ่งขึ้น)
๓. เมื่อช่างตรวจสอบพื้นที่เสร็จ จะแจ้งให้เราไปชำระค่าติดตั้ง
๔. จ่ายค่าติดตั้งเรียบร้อยได้ใบเสร็จ ๒ ใบ คือค่าติด กับค่าประกัน
๕. ช่างจะไปติดมิเตอร์ให้
ค่าไฟฟ้าชั่วคราวราคาจะสูงกว่า แบบ ถาวร อยู่พอสมควร ดังนั้น เมื่อได้เลขที่บ้านแล้วให้รีบไปขอเปลี่ยนเป็น แบบถาวร ซึ่งเมื่อ หักเงินประกัน และไม่ย้ายที่ติดมิเตอร์ เราจะได้เงินคืนอีก พันกว่าบาท
วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552
สร้างบ้านหลังใหม่
๑๖ ก.ย.๕๒
การสร้างบ้านของเราได้ล่วงเลยมาถึงขั้นตอนรอลงเสาเอก แล้วล่ะ
ย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับเป็นข้อมูลในการสร้างบ้านเลยแล้วกัน
เริ่มต้นสร้าง วางแผน
เขียนแบบบ้าน ให้เหมาะสมกับขนาดที่ดิน และความพอใจของผู้อยู่อาศัย โดยผมจ้างสถาปนิกที่เทศบาลเขียนแบบ(๓๐ มิ.ย.๕๒) บ้าน ๑ ชั้น พื้นที่ประมาณ ๑๙๐ ตรม. ค่าเขียนแบบ ๓๐,๐๐๐ บาท ใช้เวลาเขียนจนถึงอนุมัติให้สร้าง ประมาณ ๑ เดือน โดยมีผมเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง(ไม่เกิน ๑ ชั้นใครก็ได้)
ที่ดิน เนื้อที่ ๒ งาน ขนาด ๒๘ คูณ ๒๘ เมตร อยู่ใกล้ที่ทำงาน ราคา ๑ ล้านบาท ผมวางมัดจำไว้ก่อน กำหนดจ่ายเต็มจำนวน พร้อมโอน วันที่ ๓๐ ก.ย.๕๒
เงินที่สร้างบ้านใช้จากที่ไหน ของผม กู้ธนาคารซื้อที่ดิน พร้อมปลูกบ้าน
หลังจากเทศบาลอนุมัติให้สร้างก็นำเอกสารยื่นกู้ ธนาคาร กำหนดเวลาไม่เกิน ๔๕ วัน ก็จะทราบผลอนุมัติ โดยขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นประกันชีวิต ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ผมขอคิดดูก่อน (จนท. หน้าตาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่) แต่สุดท้ายวันรุ่งขึ้นผมก็ไปแจ้งขอทำประกัน จนท.บอกว่าเมื่ออนุมัติแล้วก็ให้มาทำสัญญารับเงินค่าที่และค่าก่อสร้าง ๒๐ เปอร์เซนต์ได้เลย (ก็แปลกใจ ตอนมาติดต่อสอบถามข้อมูล ได้ความว่า ต้องก่อสร้างจนได้เสา แล้วจึงได้รับเงินงวดแรก ก็สอบถามกลับไป เค้าก็บอกว่าทำสัญญาเช้า บ่ายรับเงิน เราก็เออดี จะได้มีเงินให้เจ้าของที่ได้เลยไม่ต้องรอนาน...เย็นใจเลย)
อีกวันถัดมา จนท. ประเมินราคาก็โทรมานัดดูที่ เพื่อประเมินราคาให้ธนาคาร ค่าใช้จ่าย ๒,๔๐๐ บาท ระหว่างนี้ ต้องมีแก้ไขรายการก่อสร้างคือ ราคาที่ผมทำไปนั้นทางธนาคารเห็นว่าสูงเกินไป จึงต้องเพิ่มสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม ผมจึงเพิ่มรั้วเข้าไปด้วย ใช้เวลาประมาณ ๓ สัปดาห์
๓๐ ส.ค. ๕๒ ธนาคารโทรมานัดรับเงินค่าที่ดินในวันจันทร์ ที่ ๗ ก.ย.๕๒ โดยให้ผมไปทำเอกสารที่ธนาคารในตอนเช้าแล้วไปทำเรื่องโอนที่ดิน สำนักงานที่ดิน แล้วกลับมารับเงิน ที่ ธนาคาร ผมยังงงเรื่องรับเงินเฉพาะค่าที่ดิน แล้วค่าก่อสร้างที่บอกไว้ล่ะ ...... น้องผู้หญิงที่โทรมา ก็เลยให้ผมคุยกับอีกคน ผมก็ถามเรื่องเงินค่าก่อสร้าง (ลืมถามเรื่องค่าที่ดิน) สรุปผมต้องไปสร้างบ้านก่อน จึงมาทำสัญญา ผมก็โทรนัดเจ้าของที่ดินไปพบกันที่สำนักงานที่ดิน (แล้วธนาคารเค้าก็ขอเบอร์เจ้าของที่ดินไปเพื่อโทรสอบถามข้อมูลบางอย่าง และแจ้งรายละเอียดให้ทราบ)
ระหว่างนี้ผมมีธุระที่ทำงานไม่ได้โทรไปยืนยันอะไรกับทางธนาคารเลย แต่ก็ยังมีเวลาไปหาฤกษ์ลงเสาเอก พระท่านว่าเดือนนี้(๕ ก.ย.๕๒)มีวันดีคือ ๙ ก.ย. แล้วก็ พุธที่ ๑๖ ก.ย. ถ้าเลยจากนี้ ต้องเป็น ๑๙ ต.ค.๕๒ ผมก็เลยเลือก ๑๙ ต.ค. ๕๒
๗ ก.ย.๕๒ ผมไปที่ธนาคาร จนท.ถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกว่ามาทำสัญญากู้เงิน จนท.บอกว่าไม่ได้นัดมาทำสัญญา พี่ต้องไปสร้างบ้านให้ได้เสาก่อนแล้วแจ้งผู้ประเมินไปถ่ายรูป เมื่ออนุมัติแล้วจึงมาทำสัญญา รับเงินค่าที่ พร้อมค่าก่อสร้าง ๒๐ เปอร์เซนต์ ผมก็งงอีกครั้ง แล้ว....ไปนัดเจ้าของที่ดินไว้ทำไง แล้วคุณเอาเบอร์เจ้าของที่ไปทำไม น้องผู้หญิงบอกว่า หนูเข้าใจผิด ขอโทษค่ะ หนูคิดว่าพี่คุยกันรู้เรื่องแล้ว และหนูก็โทรไปหาเจ้าของที่ แต่ไม่มีใครรับสาย ......แป่ว......ผมเสียคนเลย.......
สุดท้ายผมต้องขอโทษ เสียมัดจำเพิ่มขยายเวลาไปถึง ๓๑ ต.ค.๕๒ เพราะอีกไม่ถึงเดือน ทำไม่ทันแน่ แล้วก็ให้ค่าน้ำมันไปอีก ๒ พันบาท(เสียเงินฟรี) แล้วต้องรีบสร้างบ้านโดยด่วน
๑๒ ก.ย.๕๒ นัดช่างมาทำพิธี เสาเอก วันพุธ ที่ ๑๖ ก.ย. ๕๒ (ตามที่พระให้ไว้) ช่างก็ดำเนินการตัดหญ้าเพื่อดูพื้นที่เตรียม ตีผังในวันจันทร์ ที่ ๑๔ ก.ย. ติดต่อรถ JCB ไว้ ที่ราคา ๓,๐๐๐ บาท/ครึ่งวัน
๑๔ ก.ย. ๕๒ ช่วงเช้า ช่างพร้อม ผมก็ไปรับซินแส(มีพี่แนะนำ)เพื่อมาดูที่ดิน และกำหนดว่าบ้านจะอยู่แนวไหน เมื่อไปถึงก็นั่งคุยกัน ได้ความว่า เฮ้ย วันพุธหัวกุดท้ายเน่า เค้าไม่สร้างบ้านกันหรอก ........อ้าว...อีกแล้ว....ถามว่าแล้ววันไหนดีอ่ะ ก็ได้คำตอบว่า....รอไปก่อน ช่วงนี้ข้างแรมเค้าไม่ปลูกเหมือนกัน แล้วจากนี้ไปก็เป็นเดือน ๑๑ เค้าไม่สร้างเหมือนกัน ต้องรอ เดือน ๑๒ ตรงกับวัน จันทร์ ที่ ๑๙ ต.ค.๕๒ ..........ห๊าาา อีกตั้งเดือนกว่า แล้วจะทำไง ช่างก็นัดแล้ว ที่ก็มัดจำถึง ๓๑ ต.ค. ถ้าลงเสาเอก ๑๙ ต.ค. ไม่ทันแน่ มึนอีกแล้ว
ระหว่างนี้แฟนผมก็โทร. หาฤกษ์ที่เร็วที่สุด แล้วก็ได้เป็นวันจันทร์ ที่ ๒๑ ก.ย.๕๒ เออเอา ถึงจะเป็นเดือน ๑๑ แต่ก็เป็นวันดีสำหรับเรา(แฟนผมบอกว่า ใช้วิธีผูกดวงสามีและภรรยา) ตกลงได้ฤกษ์ ลงเสาเอก เรียบร้อย
การสร้างบ้านของเราได้ล่วงเลยมาถึงขั้นตอนรอลงเสาเอก แล้วล่ะ
ย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับเป็นข้อมูลในการสร้างบ้านเลยแล้วกัน
เริ่มต้นสร้าง วางแผน
เขียนแบบบ้าน ให้เหมาะสมกับขนาดที่ดิน และความพอใจของผู้อยู่อาศัย โดยผมจ้างสถาปนิกที่เทศบาลเขียนแบบ(๓๐ มิ.ย.๕๒) บ้าน ๑ ชั้น พื้นที่ประมาณ ๑๙๐ ตรม. ค่าเขียนแบบ ๓๐,๐๐๐ บาท ใช้เวลาเขียนจนถึงอนุมัติให้สร้าง ประมาณ ๑ เดือน โดยมีผมเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง(ไม่เกิน ๑ ชั้นใครก็ได้)
ที่ดิน เนื้อที่ ๒ งาน ขนาด ๒๘ คูณ ๒๘ เมตร อยู่ใกล้ที่ทำงาน ราคา ๑ ล้านบาท ผมวางมัดจำไว้ก่อน กำหนดจ่ายเต็มจำนวน พร้อมโอน วันที่ ๓๐ ก.ย.๕๒
เงินที่สร้างบ้านใช้จากที่ไหน ของผม กู้ธนาคารซื้อที่ดิน พร้อมปลูกบ้าน
หลังจากเทศบาลอนุมัติให้สร้างก็นำเอกสารยื่นกู้ ธนาคาร กำหนดเวลาไม่เกิน ๔๕ วัน ก็จะทราบผลอนุมัติ โดยขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นประกันชีวิต ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ผมขอคิดดูก่อน (จนท. หน้าตาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่) แต่สุดท้ายวันรุ่งขึ้นผมก็ไปแจ้งขอทำประกัน จนท.บอกว่าเมื่ออนุมัติแล้วก็ให้มาทำสัญญารับเงินค่าที่และค่าก่อสร้าง ๒๐ เปอร์เซนต์ได้เลย (ก็แปลกใจ ตอนมาติดต่อสอบถามข้อมูล ได้ความว่า ต้องก่อสร้างจนได้เสา แล้วจึงได้รับเงินงวดแรก ก็สอบถามกลับไป เค้าก็บอกว่าทำสัญญาเช้า บ่ายรับเงิน เราก็เออดี จะได้มีเงินให้เจ้าของที่ได้เลยไม่ต้องรอนาน...เย็นใจเลย)
อีกวันถัดมา จนท. ประเมินราคาก็โทรมานัดดูที่ เพื่อประเมินราคาให้ธนาคาร ค่าใช้จ่าย ๒,๔๐๐ บาท ระหว่างนี้ ต้องมีแก้ไขรายการก่อสร้างคือ ราคาที่ผมทำไปนั้นทางธนาคารเห็นว่าสูงเกินไป จึงต้องเพิ่มสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม ผมจึงเพิ่มรั้วเข้าไปด้วย ใช้เวลาประมาณ ๓ สัปดาห์
๓๐ ส.ค. ๕๒ ธนาคารโทรมานัดรับเงินค่าที่ดินในวันจันทร์ ที่ ๗ ก.ย.๕๒ โดยให้ผมไปทำเอกสารที่ธนาคารในตอนเช้าแล้วไปทำเรื่องโอนที่ดิน สำนักงานที่ดิน แล้วกลับมารับเงิน ที่ ธนาคาร ผมยังงงเรื่องรับเงินเฉพาะค่าที่ดิน แล้วค่าก่อสร้างที่บอกไว้ล่ะ ...... น้องผู้หญิงที่โทรมา ก็เลยให้ผมคุยกับอีกคน ผมก็ถามเรื่องเงินค่าก่อสร้าง (ลืมถามเรื่องค่าที่ดิน) สรุปผมต้องไปสร้างบ้านก่อน จึงมาทำสัญญา ผมก็โทรนัดเจ้าของที่ดินไปพบกันที่สำนักงานที่ดิน (แล้วธนาคารเค้าก็ขอเบอร์เจ้าของที่ดินไปเพื่อโทรสอบถามข้อมูลบางอย่าง และแจ้งรายละเอียดให้ทราบ)
ระหว่างนี้ผมมีธุระที่ทำงานไม่ได้โทรไปยืนยันอะไรกับทางธนาคารเลย แต่ก็ยังมีเวลาไปหาฤกษ์ลงเสาเอก พระท่านว่าเดือนนี้(๕ ก.ย.๕๒)มีวันดีคือ ๙ ก.ย. แล้วก็ พุธที่ ๑๖ ก.ย. ถ้าเลยจากนี้ ต้องเป็น ๑๙ ต.ค.๕๒ ผมก็เลยเลือก ๑๙ ต.ค. ๕๒
๗ ก.ย.๕๒ ผมไปที่ธนาคาร จนท.ถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกว่ามาทำสัญญากู้เงิน จนท.บอกว่าไม่ได้นัดมาทำสัญญา พี่ต้องไปสร้างบ้านให้ได้เสาก่อนแล้วแจ้งผู้ประเมินไปถ่ายรูป เมื่ออนุมัติแล้วจึงมาทำสัญญา รับเงินค่าที่ พร้อมค่าก่อสร้าง ๒๐ เปอร์เซนต์ ผมก็งงอีกครั้ง แล้ว....ไปนัดเจ้าของที่ดินไว้ทำไง แล้วคุณเอาเบอร์เจ้าของที่ไปทำไม น้องผู้หญิงบอกว่า หนูเข้าใจผิด ขอโทษค่ะ หนูคิดว่าพี่คุยกันรู้เรื่องแล้ว และหนูก็โทรไปหาเจ้าของที่ แต่ไม่มีใครรับสาย ......แป่ว......ผมเสียคนเลย.......
สุดท้ายผมต้องขอโทษ เสียมัดจำเพิ่มขยายเวลาไปถึง ๓๑ ต.ค.๕๒ เพราะอีกไม่ถึงเดือน ทำไม่ทันแน่ แล้วก็ให้ค่าน้ำมันไปอีก ๒ พันบาท(เสียเงินฟรี) แล้วต้องรีบสร้างบ้านโดยด่วน
๑๒ ก.ย.๕๒ นัดช่างมาทำพิธี เสาเอก วันพุธ ที่ ๑๖ ก.ย. ๕๒ (ตามที่พระให้ไว้) ช่างก็ดำเนินการตัดหญ้าเพื่อดูพื้นที่เตรียม ตีผังในวันจันทร์ ที่ ๑๔ ก.ย. ติดต่อรถ JCB ไว้ ที่ราคา ๓,๐๐๐ บาท/ครึ่งวัน
๑๔ ก.ย. ๕๒ ช่วงเช้า ช่างพร้อม ผมก็ไปรับซินแส(มีพี่แนะนำ)เพื่อมาดูที่ดิน และกำหนดว่าบ้านจะอยู่แนวไหน เมื่อไปถึงก็นั่งคุยกัน ได้ความว่า เฮ้ย วันพุธหัวกุดท้ายเน่า เค้าไม่สร้างบ้านกันหรอก ........อ้าว...อีกแล้ว....ถามว่าแล้ววันไหนดีอ่ะ ก็ได้คำตอบว่า....รอไปก่อน ช่วงนี้ข้างแรมเค้าไม่ปลูกเหมือนกัน แล้วจากนี้ไปก็เป็นเดือน ๑๑ เค้าไม่สร้างเหมือนกัน ต้องรอ เดือน ๑๒ ตรงกับวัน จันทร์ ที่ ๑๙ ต.ค.๕๒ ..........ห๊าาา อีกตั้งเดือนกว่า แล้วจะทำไง ช่างก็นัดแล้ว ที่ก็มัดจำถึง ๓๑ ต.ค. ถ้าลงเสาเอก ๑๙ ต.ค. ไม่ทันแน่ มึนอีกแล้ว
ระหว่างนี้แฟนผมก็โทร. หาฤกษ์ที่เร็วที่สุด แล้วก็ได้เป็นวันจันทร์ ที่ ๒๑ ก.ย.๕๒ เออเอา ถึงจะเป็นเดือน ๑๑ แต่ก็เป็นวันดีสำหรับเรา(แฟนผมบอกว่า ใช้วิธีผูกดวงสามีและภรรยา) ตกลงได้ฤกษ์ ลงเสาเอก เรียบร้อย
ลงเสาเอก
ประเดิมการเขียนบล็อค ในวันหวยออก(๑๖ ก.ย.๕๓)
เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ที่ทำให้ได้เริ่มเขียน ก็คือ เปิดเวบโน้นเวบนี้ไปเรื่อย ไหงมาถึงขั้นตอนสมัครสร้างบล็อคได้ก็ไม่รู้ เห็นว่าใช้เวลาไม่นานในการสมัคร แล้วในอนาคตน่าจะมีประโยชน์ กับตัวเองในการบันทึกเรื่องต่างๆ ก็เลยโอเค
เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ที่ทำให้ได้เริ่มเขียน ก็คือ เปิดเวบโน้นเวบนี้ไปเรื่อย ไหงมาถึงขั้นตอนสมัครสร้างบล็อคได้ก็ไม่รู้ เห็นว่าใช้เวลาไม่นานในการสมัคร แล้วในอนาคตน่าจะมีประโยชน์ กับตัวเองในการบันทึกเรื่องต่างๆ ก็เลยโอเค
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)